ยายตาบอด-เดินไม่ได้ ร้อง อบต.บุกรุก สร้างถนนทับที่มีโฉนดเกือบไร่

วันที่ 19 ธ.ค. 67 นางเคน อายุ 77 ปี พิการทางการเคลื่อนไหวและตาบอด พร้อมด้วยนายเสวย อายุ 81 ปี สามี และลูกสาวลูกชาย อาศัยอยู่บ้านปราสาทเ...




วันที่ 19 ธ.ค. 67 นางเคน อายุ 77 ปี พิการทางการเคลื่อนไหวและตาบอด พร้อมด้วยนายเสวย อายุ 81 ปี สามี และลูกสาวลูกชาย อาศัยอยู่บ้านปราสาทเทพสถิต ต.ช่อผา อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ได้นำโฉนดที่ดินเนื้อที่ 3 ไร่ 1 งาน 54 ตารางวา ซึ่งเป็นที่ทำกินของครอบครัวในหมู่บ้านหนองตาเปล่ง ม.6 ต.ช่อผกา ซึ่งอยู่หมู่บ้าน
ติดกัน และเอกสารที่เกี่ยวข้อง ร้องขอความช่วยเหลือกับนายภัทรพงศ์ สุภักษร หรือ ทนายอั๋น
หลังจากผู้นำหมู่บ้าน และองค์การบริหารส่วนตำบลช่อผกา ร่วมกันบุกรุกสร้างถนนหินคลุกทับที่ดินทำกิน ที่เป็นโฉนดกินเนื้อที่เกือบ 1ไร่ เมื่อปี 2565 โดยที่ผู้ใหญ่บ้านอ้างว่า ผ่านประชาคมเสียงส่วนใหญ่ แต่ไม่เคยมาสอบถามเจ้าของที่ดินที่ถือครองกรรมสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย
ขณะที่ทาง อบต.ก็อนุมัติการก่อสร้าง โดยอ้างว่าบรรพบุรุษที่เสียชีวิตไปแล้ว เคยอุทิศที่ดินบริเวณดังกล่าวให้เป็นทางสาธารณะ แต่กลับไม่มีเอกสารหลักฐานการอุทิศที่ดินตามที่กล่าวอ้าง และเมื่อดำเนินการเสร็จไปแล้วยังมาบอกกับครอบครัวว่าทำตามระเบียบขั้นตอน หากไม่พอใจก็ให้ไปฟ้องร้องเอา จากการกระทำของผู้นำหมู่บ้าน และ อบต.ในกรณีดังกล่าวสร้างความเดือดร้อนเสียหายให้กับครอบครัวก็จะใช้สิทธิ์ฟ้องร้องตามกฎหมาย
นางเคน ซึ่งเป็นผู้ถือครองโฉนดที่ดินแปลงดังกล่าว ยืนยันว่าที่ดินดังกล่าวได้รับตกทอดมาจากพ่อ ไม่เคยอุทิศหรือยกที่ดินให้เป็นทางสาธารณะเลย ก็ทำกินมาตลอด มีแต่ชาวบ้านบางคนที่ขอเดินผ่านที่เพื่อไปทำเกษตรในที่ดินของตนเองเท่านั้น กรณีที่ทาง อบต.ทำถนนทับที่ดิน ก็ทำโดยพละการ ไม่เคยมีใครมาแจ้งอะไรเลย

ทางด้านทนายอั๋น เผยว่า จากการลงไปดูสภาพพื้นที่จริงพบว่า มีการสร้างถนนทับที่เกือบ 1 ไร่ ซึ่งทางผู้นำอ้างว่ามีการประชาคมเสียงส่วนใหญ่ แต่ไม่เคยแจ้งให้เจ้าของที่ดินทราบ ดังนั้นการกระทำดังกล่าวถือเป็นการเป็นการละเมิดสิทธิ์ ซึ่งเจ้าของที่ดินสามารถใช้สิทธิ์ร้องศาลปกครอง ส่วนกรณีที่ทาง อบต.อ้างว่าเจ้าของที่ดินที่เสียชีวิตไปแล้วอุทิศให้เป็นทางสาธารณะแต่ไม่มีเอกสารการอุทิศ ก็ต้องไปพิสูจน์กันที่ชั้นศาลตามกระบวนการ
จึงได้เดินทางไปที่ อบต.ช่อผกา เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกรณีที่มีการร้องเรียน ซึ่งนายสำรวย บ่อไทย นายก อบต.ช่อผกา ให้ข้อมูลว่า หลังจากที่นายชาตรีไปร้องเรียนอำเภอ ทาง อบต.ก็ได้ทำหนังสือชี้แจงทางอำเภอและศูนย์ดำรงธรรมแล้วว่า อบต.ได้ดำเนินการตามขั้นตอน เมื่อได้รับคำขอสนับสนุนโครงการจากหมู่ที่ 6 ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลช่อผกา ก็ได้เปิดประชุมสภาฯ ซึ่งที่ประชุมสภา อบต.มีมติเห็นชอบให้ดำเนินโครงการสร้างปรับปรุงถนนดิน โดยเสริมดินพร้อมหินคลุกบ้านหนองตาเปล่ง
ต่อมาเจ้าหน้าที่กองช่าง อบต.ออกสำรวจพื้นที่ ก่อนจะดำเนินโครงการก็พบร่องรอยรูปทางอยู่ก่อนแล้ว จึงมีความเข้าใจว่าเป็นทางสาธารณะ และราษฎรก็ใช้ถนนเส้นนี้เป็นทางสัญจรเข้า-ออก จึงได้ดำเนินการโครงการจนเสร็จสิ้น และทราบว่าถนนเส้นนี้ไม่ปรากฏเอกสารหนังสืออุทิศที่ดิน หรือเอกสารใดที่แสดงให้เห็นว่าพื้นที่ก่อสร้างได้ แต่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของที่ดินซึ่งเป็นบรรพบุรุษว่าอุทิศให้เป็นถนนใช้สัญจรเข้าออกรวมกันโดยวาจา
และเจ้าหน้าที่ อบต.เข้าใจว่าบริเวณดังกล่าวเป็นทางสาธารณะอยู่เดิมแล้ว จึงได้ดำเนินการโครงการฯ ก็ยอมรับว่าทาง อบต.อาจจะพลาดตรงที่ไม่ได้ไปพูดคุยกับเจ้าของที่ดินปัจจุบันอีกครั้ง เพราะเข้าใจว่าผู้เป็นพ่อที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เดิมยกให้เป็นทางสาธารณะด้วยวาจาแล้ว จะไม่มีปัญหา แต่ยืนยันว่าทาง อบต.ไม่มีเจตนาจะสร้างถนนทับทีดินดังกล่าว แต่เมื่อดำเนินการไปแล้ว ก็พยายามจะรับผิดชอบเยียวยาให้เจ้าของที่ตามระเบียบ แต่ผู้ร้องไม่ยอมรับการเยียวยา ซึ่งหากมีการฟ้องร้องทาง อบต.ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการตามขั้นตอน

You Might Also Like

0 comments

Flickr Images