ทั้งนี้ การรักษาภาวะมีบุตรยากคู่สามีภรรยาต้องจดทะเบียนสมรสกันเพื่อเป็นสามีภรรยาโดยชอบตามกฎหมายเท่านั้น ทะเบียนสมรส ถือเป็นเอกสารทางกฎหมายเพื่อยืนยันความรับผิดชอบ และยืนยันสิทธิต่าง ๆ ทำให้บุตรได้รับสิทธิตามกฎหมาย
และควบคุมการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์การแพทย์เกี่ยวกับตัวอ่อน มิให้มีการนำเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง หรือเพื่อป้องกันการอุ้มบุญโดยผิดกฎหมาย
การทำ IVF ในต่างประเทศ – ข้อดีและข้อเสีย
เหตุผลที่น่าสนใจที่สุดประการหนึ่งในการแสวงหาการรักษาด้วยวิธี IVF ในต่างประเทศคือศักยภาพในการประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างมาก ในประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐอเมริกา การรักษาด้วยวิธี IVF ครั้งเดียวอาจมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 12,000 ถึง 15,000 เหรียญสหรัฐ โดยไม่รวมยาและขั้นตอนเพิ่มเติม เช่น การฉีดอสุจิเข้าไปในเซลล์ไข่โดยตรง (ICSI) หรือการวินิจฉัยทางพันธุกรรมก่อนการฝังตัวของตัวอ่อน (PGD) ในทางกลับกัน ประเทศต่างๆ เช่น สาธารณรัฐเช็กสเปนและกรีซเสนอการรักษาด้วยวิธี IVF ในราคาที่ถูกกว่ามาก โดยบางครั้งอาจรวมค่ายา ที่พัก และบริการอื่นๆ ไว้ในแพ็คเกจด้วย คุณสามารถใช้เครื่องคำนวณค่าใช้จ่าย IVF ของเรา เพื่อเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายทั่วไปของ IVF ระหว่างประเทศยอดนิยมในยุโรป
-การเข้าถึงไข่บริจาคในต่างประเทศได้ดีขึ้น สำหรับผู้ที่ต้องการไข่บริจาค คลินิก IVF ในต่างประเทศมักจะมีข้อจำกัดน้อยกว่าและระยะเวลาการรอสั้นกว่า บางประเทศมีฐานข้อมูลผู้บริจาคที่ครอบคลุมกว่าและมีกฎระเบียบที่ผ่อนปรนมากขึ้นเกี่ยวกับการไม่เปิดเผยตัวตนของผู้บริจาค ซึ่งสามารถเพิ่มจำนวนผู้บริจาคที่มีอยู่ได้อย่างมาก
-เทคโนโลยี IVF ล้ำสมัยจากต่างประเทศ คลินิก IVFหลายแห่ง ในต่างประเทศ มีอุปกรณ์ที่ทันสมัยและใช้เทคโนโลยีการสืบพันธุ์ที่ทันสมัยที่สุด โดยมักจะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เชี่ยวชาญเทคนิคและโปรโตคอล IVF ล่าสุด PGT การตรวจติดตามตัวอ่อน เทคนิคขั้นสูงที่ใช้กับกรณีที่มีปัจจัยเสี่ยงในเพศชาย การฟื้นฟูรังไข่ - PRP และอื่นๆ อีกมากมายพร้อมให้บริการอย่างแพร่หลายในสถานที่ทำ IVF ยอดนิยม
-การผสมผสานการรักษาด้วยวิธี IVF กับการเดินทาง การเดินทางไปต่างประเทศเพื่อทำ IVF ช่วยให้ผู้ป่วยและคู่รักสามารถรวมการรักษาเข้ากับโอกาสในการเดินทางไปยังประเทศใหม่ได้ ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกผ่อนคลายจากความเครียดที่บ้าน ซึ่งอาจส่งผลดีต่อสุขภาพจิตของว่าที่พ่อแม่
-ความเป็นส่วนตัวและการไม่เปิดเผยตัวตน การทำเด็กหลอดแก้วถือเป็นเรื่องส่วนตัว และการเข้ารับการรักษาในต่างประเทศอาจทำให้คุณไม่เปิดเผยตัวตน ซึ่งไม่สามารถทำได้ที่บ้าน ซึ่งอาจดึงดูดบุคคลสาธารณะหรือผู้ที่อาศัยอยู่ในชุมชนเล็กๆ เป็นพิเศษ
ข้อเสียของการทำเด็กหลอดแก้วในต่างประเทศ
-ข้ออพิจารณาทางกฎหมายและจริยธรรม ประเทศต่างๆ มีกฎหมายและมาตรฐานทางจริยธรรมเกี่ยวกับการรักษาด้วยวิธี IVF ที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น บางประเทศจำกัดการทำ IVF ไว้เฉพาะคู่รักต่างเพศเท่านั้น ในขณะที่บางประเทศอนุญาตให้ทำเฉพาะบุคคลที่เป็นโสดหรือคู่รักเพศเดียวกัน การใช้ไข่บริจาคและการจัดการตัวอ่อนที่ไม่ได้ใช้ก็อาจแตกต่างกันอย่างมาก ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาทางจริยธรรมสำหรับผู้ป่วยบางราย คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อบังคับเฉพาะประเทศสำหรับการทำ IVF ในต่างประเทศได้ที่นี่
-ศักยภาพในการทำให้เกิดความเครียดเพิ่มเติม แม้ว่าการเดินทางอาจเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น แต่ก็อาจเพิ่มความเครียดได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเข้ารับการรักษาทางการแพทย์ อุปสรรคด้านภาษา ความแตกต่างทางวัฒนธรรม
-การดูแลติดตาม การดูแลอย่างต่อเนื่องถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาทางการแพทย์ทุกประเภท เมื่อเข้ารับการทำ IVF ในต่างประเทศ อาจมีภาวะแทรกซ้อนในการประสานงานการดูแลติดตามผลเมื่อผู้ป่วยกลับบ้าน ซึ่งอาจเป็นปัญหาได้โดยเฉพาะหากมีภาวะแทรกซ้อนหรือหากการทำ IVF ต้องเข้ารับการรักษาหลายครั้ง
-สถานะทางกฎหมายของบุตร สถานะทางกฎหมายของเด็กที่เกิดผ่านกระบวนการ IVF ระหว่างประเทศอาจมีความซับซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการใช้ไข่หรืออสุจิของผู้บริจาค ผู้ปกครองอาจเผชิญกับความท้าทายในเรื่องการขอสัญชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากกฎหมายของประเทศบ้านเกิดไม่ยอมรับเด็กที่เกิดผ่านกระบวนการช่วยเหลือด้านการสืบพันธุ์ระหว่างประเทศได้ง่ายนัก
-ข้อกังวลด้านคุณภาพและกฎระเบียบ แม้ว่าคลินิกในต่างประเทศหลายแห่งจะให้บริการที่มีคุณภาพสูง แต่กฎระเบียบและการกำกับดูแลคลินิก IVF ในต่างประเทศก็อาจมีความแตกต่างกันอย่างมาก ผู้ป่วยอาจพบว่าการประเมินมาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัยของคลินิกในต่างประเทศเป็นเรื่องยาก ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงได้ เป็นต้น