khaothia
เพจดัง เปิดโปง พฤติกรรม อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม
02:29เมื่อวันที่ 27 พ.ย.67 เพจ สื่อออนไลน์ Online Media ได้โพสต์ข้อความระบุว่า แผนการข้ออ้างเรี่ยไรเงิน ((ขอทาน)) ประชาชน ""นักบุญทุนชาวบ้าน"" เมื่อคนวิจารณ์ว่า ""ถวายวัดทำไมเยอะแยะ"" คนลักษณะ ""ทิดเบียร์"" จะเบนเข็มทิศไปอ้าง ""โรงเรียน โรงพยาบาล"" จะได้ดูดีในสายตาคนไทยที่ชอบงมงายในงมงายอีกที หากใครไม่เชื่อก็รอดูได้เลย เดี๋ยวจะหาว่า สื่อออนไลน์ Online Media ใส่ร้ายโดยคำไม่จริง พอความจริงเริ่มโผล่ ติ่งเบียร์ ก็จะด่าทางเราว่า ""มือไม่พาย-เขาทำก็ดีแล้วไง-ไม่ทำก็ไม่ต้องพูด-คนเขา
เต็มใจ-มึงทำประโยชน์อะไรให้สังคมบ้าง-อิจฉา-รับงานมาโค่น-เสียผลประโยชน์"" ติ่งก็จะทนไม่ได้ดิ้นด้วยคำแนวนี้ ตกลงบ้านเมืองเราจะแก้ปัญหาประเทศชาติด้วยการเรี่ยไรเงิน ขอทานแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน หากรัฐบาลไม่แก้ปัญหาที่ต้นเหตุความเหลื่อมล้ำในสังคม รวยกระจุกจนกระจาย พระสงฆ์นั่งรถหรูกว่าประชาชน โรงเรียน โรงพยาบาล ได้งบประมาณไม่ตรงจุด ไม่เท่าเทียม ก็จะเป็นช่องว่างให้พวกขอทาน ((นักเรี่ยไรเงิน นักบุญทุนชาวบ้าน)) เกิดขึ้นในสังคมไทยไม่มีวันหมด เก่าไปใหม่มา
แต่คนไทยก็ยังมีกลุ่มคนยากจนที่คอยรอรับเศษขนมปัง เศษกระดูก ผูกขาด การเสพคอนเทนต์ทำความดีไม่มีที่สิ้นสุด มันจึงเป็นที่มาของ ""นักเรี่ยไร นักต้มตุ๋น นักธุรกิจแชร์ลูกโซ่ นักตบทรัพย์"" เพราะคนไทยชอบ ""งมงายในงมงายอีกที"" เชื่อคนต่อต้านสิ่งงมงาย แต่โอนเงินให้คนที่อ้างตนว่าต่อต้านไปงมงายในตัวตนอีกอีกที เชื่อคนต่อต้านแชร์ลูกโซ่ไปหลงเชื่อนักตบทรัพย์อีกที เชื่อคนอวดรวยเพราะความโลภอยากรวยเหมือนเขาเลยโอนเงินลงทุน วงจรอุบาทว์เหล่านี้จะไม่มีวันหมดไปจากสังคมไทย ถ้าคนไทยไม่หูตาสว่าง ถ้าสื่อทีวีช่องต่าง ๆ ยังคงบ้าคนดัง เอาไปออกเพื่อโปรโมทคนเหล่านี้
คนที่จะอยู่ไม่ได้อาจเป็นช่องทีวีเอง รายการทีวีเอง เพราะผลของกรรมที่ส่งผลทำให้ประชาชนเดือดร้อนทั้งทางตรงและทางอ้อม บางรายการถึงต้องประกาศปิดตัวก็มีมาแล้ว ถ้าอ้างเป็นเพราะพิษเศรษฐกิจก็ต้องปิดมาก่อนหน้านี้ไม่ใช่เพิ่งมาปิดหลังรับเงินจากแชร์ลูกโซ่ไปแล้วมหาศาล รัฐบาลควรแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม ประชาชาคนไทยควรเลิกสนับสนุนการบริจาคเงินผ่านนักเรี่ยไร ((ขอทาน)) อยากบริจาคให้วัด โรงเรียน โรงพยาบาล ก็ไปบริจาคเองโดยตรงไม่ต้องผ่านใคร ""เลิกโง่งมงายในงมงายซะที""
แต่คนไทยก็ยังมีกลุ่มคนยากจนที่คอยรอรับเศษขนมปัง เศษกระดูก ผูกขาด การเสพคอนเทนต์ทำความดีไม่มีที่สิ้นสุด มันจึงเป็นที่มาของ ""นักเรี่ยไร นักต้มตุ๋น นักธุรกิจแชร์ลูกโซ่ นักตบทรัพย์"" เพราะคนไทยชอบ ""งมงายในงมงายอีกที"" เชื่อคนต่อต้านสิ่งงมงาย แต่โอนเงินให้คนที่อ้างตนว่าต่อต้านไปงมงายในตัวตนอีกอีกที เชื่อคนต่อต้านแชร์ลูกโซ่ไปหลงเชื่อนักตบทรัพย์อีกที เชื่อคนอวดรวยเพราะความโลภอยากรวยเหมือนเขาเลยโอนเงินลงทุน วงจรอุบาทว์เหล่านี้จะไม่มีวันหมดไปจากสังคมไทย ถ้าคนไทยไม่หูตาสว่าง ถ้าสื่อทีวีช่องต่าง ๆ ยังคงบ้าคนดัง เอาไปออกเพื่อโปรโมทคนเหล่านี้
คนที่จะอยู่ไม่ได้อาจเป็นช่องทีวีเอง รายการทีวีเอง เพราะผลของกรรมที่ส่งผลทำให้ประชาชนเดือดร้อนทั้งทางตรงและทางอ้อม บางรายการถึงต้องประกาศปิดตัวก็มีมาแล้ว ถ้าอ้างเป็นเพราะพิษเศรษฐกิจก็ต้องปิดมาก่อนหน้านี้ไม่ใช่เพิ่งมาปิดหลังรับเงินจากแชร์ลูกโซ่ไปแล้วมหาศาล รัฐบาลควรแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม ประชาชาคนไทยควรเลิกสนับสนุนการบริจาคเงินผ่านนักเรี่ยไร ((ขอทาน)) อยากบริจาคให้วัด โรงเรียน โรงพยาบาล ก็ไปบริจาคเองโดยตรงไม่ต้องผ่านใคร ""เลิกโง่งมงายในงมงายซะที""
ทางเราทำงานนี้เพื่อประโยชน์แก่พี่น้องประชาชนมาตั้งแต่ปี 2015 ไม่เคยเปืดบัญชีขอรับบริจาค ไม่เคยแม้แต่รับงานโปรโมทโฆษณาสินค้า ไม่แปะลิงค์เว็บพนัน ไม่ตบทรัพย์ ไม่รับงาน แต่สังคมไทยก็ยังคงวนอยู่ที่เดิม เก่าไปใหม่มา ประเทศไทยก็ยังไม่เคยแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำได้ เอะอะอะไรก็ ""เรี่ยไรเงิน ขอทาน ขอบริจาค"" คนไทยน้ำใจงามน่ะดี แต่ควรทำเฉพาะวิกฤติน้ำท่วม หรือมีเหตุมีภัยก็พอ ไม่ใช่เรี่ยไรเงิน ขอทาน แบบนี้ไปตลอด ก็ลองเลือกที่จะเชื่อเอาระหว่าง ""สื่อไม่หิวเงิน VS นักเรี่ยไร ขอทาน เปิดบัญชีรับบริจาค"" ดูเอาว่าใครกันแน่ที่แสวงหาผลได้ประโยชน์ ถ้าอ้างว่า เขาเรี่ยไรไปให้วัด โรงเรียน โรงพยาบาล แต่อย่าลืมว่าสิ่งที่เขาได้คือ ชื่อเสียง ออกรายการ รับรางวัล พรีเซนเตอร์ ถ่ายหนัง ถ่ายละคร ขายของ งานต่าง ๆ ก็จะตามมา อย่ามองแค่เรื่องเขาไม่ได้อมเงินบริจาค มองแบบนั้นคือ ""คนโง่งมงาย"" จนวันตายคนไทยก็ยังคงหลงคนดังจนโง่งมงายในงมงายอีกทีไม่มีที่สิ้นสุด
0 comments