เปิดรายชื่อจังหวัด เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก

วันที่ 20 ก.ย. 2567 นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลา...




วันที่ 20 ก.ย. 2567 นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง
ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศแจ้งเตือนเกี่ยวกับว่า พายุโซนร้อน "ซูลิก" อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่



ประกอบกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติได้มีประกาศฉบับที่ 16/2567 ได้วิเคราะห์สถานการณ์และคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและดินโคลนถล่มบริเวณพื้นที่ต้นน้ำ โดยมีพื้นที่แจ้งเตือนสถานการณ์ระหว่างวันที่ 19 - 25 ก.ย.2567 ดังนี้

- ภาคเหนือ จำนวน 17 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน (ทุกอำเภอ) เชียงใหม่ (อ.แม่อาย ฝาง เชียงดาว จอมทอง ฮอด) เชียงราย (อ.เมืองฯ แม่สาย เชียงของ เชียงแสน แม่จัน แม่ฟ้าหลวง เทิง พญาเม็งราย เวียงแก่น ขุนตาล เวียงชัย แม่ลาว) ลำพูน (อ.เมืองฯ ลี้) ลำปาง (อ.วังเหนือ งาว) พะเยา (อ.เมืองฯ แม่ใจ ภูซาง ปง เชียงคำ จุน ภูกามยาว เชียงม่วน) แพร่ (อ.เมืองฯ วังชิ้น สูงเม่น เด่นชัย สอง ลอง)
น่าน (อ.เมืองฯ ทุ่งช้าง เฉลิมพระเกียรติ ปัว บ่อเกลือ ท่าวังผา เชียงกลาง สองแคว แม่จริม ภูเพียง เวียงสา) อุตรดิตถ์ (อ.เมืองฯ ลับแล พิชัย ทองแสนขัน ท่าปลา น้ำปาด) ตาก (อ.เมืองฯ ท่าสองยาง แม่ระมาด แม่สอด พบพระ อุ้มผาง) สุโขทัย (อ.เมืองฯ ศรีสัชนาลัย ศรีสำโรง กงไกรลาศ) กำแพงเพชร (อ.ปางศิลาทอง คลองลาน โกสัมพีนคร พรานกระต่าย) พิษณุโลก (อ.ชาติตระการ นครไทย วัดโบสถ์ วังทอง เนินมะปราง) พิจิตร (อ.โพธิ์ประทับช้าง) เพชรบูรณ์ (อ.เมืองฯ หนองไผ่ หล่มเก่า หล่มสัก) นครสวรรค์ (อ.แม่วงก์ แม่เปิน) และอุทัยธานี (อ.บ้านไร่)
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 20 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเลย (อ.นาแห้ว เชียงคาน ด่านซ้าย ปากชม) หนองคาย (อ.เมืองฯ สังคม ศรีเชียงใหม่ ท่าบ่อ โพนพิสัย โพธิ์ตาก) บึงกาฬ (อ.เมืองฯ ปากคาด บุ่งคล้า โซ่พิสัย เซกา บึงโขงหลง) หนองบัวลำภู (อ.สุวรรณคูหา) อุดรธานี (อ.เพ็ญ บ้านดุง หนองหาน นายูง น้ำโสม) สกลนคร (อ.อากาศอำนวย คำตากล้า พรรณนานิคม เมืองฯ ภูพาน สว่างแดนดิน) นครพนม (อ.เมืองฯ บ้านแพง ท่าอุเทน นาหว้า โพนสวรรค์ ปลาปาก ธาตุพนม ศรีสงคราม) ชัยภูมิ (อ.เมืองฯ บ้านเขว้า จัตุรัส คอนสวรรค์ คอนสาร หนองบัวแดง)
ขอนแก่น (อ.เมืองฯ ภูผาม่าน ชุมแพ บ้านไผ่) มหาสารคาม (อ.เมืองฯ โกสุมพิสัย) กาฬสินธุ์ (อ.เมืองฯ กมลาไสย ยางตลาด ร่องคำ) มุกดาหาร (อ.เมืองฯ นิคมคำสร้อย หว้านใหญ่ ดอนตาล) ร้อยเอ็ด (อ.เมืองฯ เสลภูมิ ทุ่งเขาหลวง เกษตรวิสัย) ยโสธร (อ.เมืองฯ ป่าติ้ว คำเขื่อนแก้ว) อำนาจเจริญ (อ.เมืองฯ หัวตะพาน ชานุมาน) นครราชสีมา (อ.เมืองฯ เมืองยาง ลำทะเมนชัย พิมาย ปากช่อง วังน้ำเขียว) บุรีรัมย์ (อ.เมืองฯ) สุรินทร์ (อ.เมืองฯ ชุมพลบุรี ท่าตูม รัตนบุรี จอมพระ สนม โนนนารายณ์ ศีขรภูมิ ปราสาท) ศรีสะเกษ (อ.เมืองฯ ราษีไศล ยางชุมน้อย) และอุบลราชธานี (อ.เมืองฯ ตาลสุม วารินชำราบ น้ำยืน พิบูลมังสาหาร น้ำขุ่น)
- ภาคกลาง จำนวน 22 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี (อ.สังขละบุรี ทองผาภูมิ) ราชบุรี (อ.ปากท่อ สวนผึ้ง) สุพรรณบุรี (อ.เมืองฯ ด่านช้าง) ชัยนาท (อ.หันคา) สิงห์บุรี (อ.อินทร์บุรี พรหมบุรี) อ่างทอง (อ.ป่าโมก วิเศษชัยชาญ) พระนครศรีอยุธยา (อ.บางบาล บางปะหัน เสนา ผักไห่ พระนครศรีอยุธยา บางปะอิน บางไทร) ลพบุรี (อ.ชัยบาดาล สระโบสถ์ ลำสนธิ) สระบุรี (อ.แก่งคอย) นครนายก (อ.เมืองฯ ปากพลี บ้านนา) ปราจีนบุรี (อ.เมืองฯ ประจันตคาม กบินทร์บุรี นาดี) สระแก้ว (อ.เมืองฯ อรัญประเทศ) ฉะเชิงเทรา (อ.สนามชัยเขต ท่าตะเกียบ)
ชลบุรี (อ.เมืองฯ ศรีราชา บางละมุง) ระยอง (อ.เมืองฯ ปลวกแดง นิคมพัฒนา แกลง บ้านค่าย) จันทบุรี (อ.เมืองฯ ท่าใหม่ เขาคิชฌกูฏ สอยดาว โป่งน้ำร้อน มะขาม ขลุง) ตราด (ทุกอำเภอ) ประจวบคีรีขันธ์ (อ.บางสะพาน บางสะพานน้อย ปราณบุรี) ปทุมธานี (อ.ธัญบุรี คลองหลวง) นนทบุรี (อ.เมืองฯ ปากเกร็ด) นครปฐม (อ.เมืองฯ บางเลน) และสมุทรปราการ (อ.เมืองฯ บางพลี บางเสาธง) รวมถึงกรุงเทพมหานคร
- ภาคใต้ จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชุมพร (อ.ท่าแซะ พะโต๊ะ สวี) สุราษฎร์ธานี (อ.เมืองฯ คีรีรัฐนิคม พุนพิน พระแสง เวียงสระ พนม บ้านตาขุน) นครศรีธรรมราช (อ.เมืองฯ เชียรใหญ่ ถ้ำพรรณรา ทุ่งใหญ่ พิปูน ช้างกลาง ลานสกา) พัทลุง (อ.เมืองฯ ปากพะยูน กงหรา ศรีนครินทร์ ควนขนุน) สงขลา (อ.รัตภูมิ หาดใหญ่ สะบ้าย้อย นาหม่อม) ระนอง (ทุกอำเภอ) พังงา (อ.เมืองฯ คุระบุรี ตะกั่วป่า กะปง ท้ายเหมือง) ภูเก็ต (ทุกอำเภอ) กระบี่ (อ.เมืองฯ เขาพนม เหนือคลอง อ่าวลึก คลองท่อม ปลายพระยา เกาะลันตา) ตรัง (อ.เมืองฯ ปะเหลียน นาโยง กันตัง สิเกา ย่านตาขาว ห้วยยอด รัษฎา วังวิเศษ) และสตูล (อ.เมืองฯ ควนโดน ควนกาหลง ทุ่งหว้า มะนัง)
ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน สุโขทัย ตาก อุทัยธานี เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด สุราษฎร์ธานี ระนอง ภูเก็ต ตรัง และอ่างเก็บน้ำที่มีสถิติปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากกว่าความจุเก็บกักที่มีความเสี่ยงน้ำล้นอ่างฯ และส่งผลกระทบให้น้ำท่วมบริเวณด้านท้ายน้ำ
นอกจากนั้นพื้นที่เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของ แม่น้ำสาย (จ.เชียงราย อ.แม่สาย) แม่น้ำกก (จ.เชียงใหม่ อ.แม่อาย จ.เชียงราย อ.เมืองฯ เชียงแสน) แม่น้ำอิง (จ.พะเยา อ.เมืองฯ) แม่น้ำยม (จ.พิษณุโลก อ.บางระกำ) แม่น้ำป่าสัก (จ.เพชรบูรณ์ อ.หล่มสัก หนองไผ่) แม่น้ำเลย (จ.เลย อ.เชียงคาน) ห้วยหลวง (จ.อุดรธานี) แม่น้ำสงคราม (จ.อุดรธานี สกลนคร บึงกาฬ นครพนม) แม่น้ำจันทบุรี (จ.จันทบุรี อ.เมืองฯ มะขาม) และแม่น้ำตราด (จ.ตราด อ.เมืองฯ เขาสมิง บ่อไร่)
ขณะที่พื้นที่เฝ้าระวังคลื่นลมแรง ภาคกลาง จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชลบุรี (อ.เมืองฯ ศรีราชา เกาะสีชัง บางละมุง สัตหีบ) ระยอง (อ.เมืองฯ บ้านฉาง แกลง) จันทบุรี (อ.นายายอาม ท่าใหม่ แหลมสิงห์ ขลุง) และตราด (อ.เมืองฯ แหลมงอบ คลองใหญ่ เกาะช้าง เกาะกูด) และภาคใต้ จำนวน 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดระนอง (อ.เมืองฯ สุขสำราญ กะเปอร์) พังงา (อ.เกาะยาว ตะกั่วทุ่ง ท้ายเหมือง ตะกั่วป่า คุระบุรี) ภูเก็ต (ทุกอำเภอ) กระบี่ (อ.เมืองฯ คลองท่อม เกาะลันตา เหนือคลอง อ่าวลึก) ตรัง (อ.กันตัง สิเกา ปะเหลียน หาดสำราญ) และสตูล (อ.เมืองฯ ละงู ท่าแพ ทุ่งหว้า)
ทั้งนี้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้ง 70 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ และกรุงเทพมหานคร รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณฝนที่ตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัยได้ โดยได้กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตลอด 24 ชั่วใมง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกหนักและพื้นที่ที่มีฝนตกติดต่อกันเป็นเวลานาน พื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ และพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำท่วมขังระบายไม่ทัน

You Might Also Like

0 comments

Flickr Images