ล่า สมชาย วัย 56 ปี บุคคลอันตราย ไม่พอใจใครขู่ฆ่า ชาวบ้านโดนกันเพียบ ปลัด-กำนัน ยังไม่เว้น ลั่นจะยิงทิ้งให้หมด ตร.บุกจับยังหนีได้

กรณี เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง นำมายค้นศาลจังหวัดหลังสวน ที่ 26/2567 ลงวันที่ 18 เม.ย.2567 ทำการตรวจค้น...




กรณี เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง นำมายค้นศาลจังหวัดหลังสวน ที่ 26/2567 ลงวันที่ 18 เม.ย.2567 ทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 27 ม.10 ต.วิสัยใต้ อ.สวี จ.ชุมพร เพื่อจับกุม นายสมชาย (สงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี บุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดหลังสวน ที่ 76/2567 ลงวันที่ 18 เม.ย.2567
ในความผิดฐาน ยิงปืนโดยไม่มีเหตุอันควรในเมือง หมู่บ้านและทำให้ผู้อื่นตกใจกลัวโดยขู่เข็ญ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ พยายามฆ่า

ผลการตรวจค้น ไม่พบตัวนายสมชาย โดยตรวจยึด เครื่องกระสุนปืน ขนาด.22 จำนวน 194 นัด หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ปรากฏว่านายสมชาย หลบหนีออกทางหน้าต่างข้างบ้านเดินถือปืนยาวหายไปในป่าหลังบ้านไปก่อนหน้านี้แล้ว พร้อมทั้งกล่าวโทษ นายสมชาย ในความผิดฐาน มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ต่อพนักงานสอบสวน สภ.สวี



ความคืบหน้าวันที่ 25 เม.ย.2567 นายมนตรี (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี และ น.ส.ชญาภา (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี สองพ่อลูก ซึ่งเป็นญาติของผู้ต้องหาตามหมายจับและเป็นผู้เสียหาย เล่าถึงสาเหตุก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าปิดล้อมบ้านนายสมชายว่า เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา นายมนตรี พร้อมภรรยาและลูกสาวเดินทางไปสวนปาล์ม ซึ่งต้องผ่านบ้านนายสมชาย โดยเป็นที่ดินของตนเอง
แต่รถไม่สามารถขับผ่านไปได้เพราะนายสมชายจอดรถยนต์กระบะขวางปิดถนน จึงลงจากรถเพื่อบอกให้นายสมชายเลื่อนรถออก แต่ นายสมชาย ไม่พูดอะไร กลับยกปืนทำท่าจะยิงลูกสาวตน จึงวิ่งกระโดดหลบหลบ เป็นจังหวะเดียวกับที่นายสมชายลั่นไกปืนลูกซองยาว 1 นัด แต่โชคดีที่ไม่โดนใคร
ต่อมา น.ส.ชญาภา ยกมือถือถ่ายคลิป ทำให้นายสมชายไม่พอใจพร้อมตะโกนด่าด้วยคำหยาบคาย และบอกว่าจะยิงให้ตายเป็นกองเลย หลังจากนั้นทั้งหมดได้ขับรถหนีตายออกมาโทรแจ้งตำรวจ ก่อนนำหลักฐานไปแจ้งความที่ สภ.สวี กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำหมายจับนายสมชายดังกล่าวแต่ไม่พบตัว
นายมนตรี เปิดเผยอีกว่า ตนไม่เคยทะเลาะกับนายสมชายเลยแม้เพียงครั้งเดียว แต่อาจโกรธแค้นเรื่องอดีต เนื่องจากบ้านพักที่นายสมชายอยู่เป็นของมรดกตนที่ตกทอดมา โดยให้นายสมชายอยู่อาศัยได้ห้ามทำอะไรเป็นการถาวร แต่นายสมชายไม่ฟังภายหลังมีการถมดินบริเวณรอบบ้านและสร้างโรงเพาะชำอีก ซึ่งมีการพูดห้ามอาจทำให้สมชายไม่พอใจในเรื่องนี้



ทั้งนี้ทราบว่านายสมชายก่อเหตุกับชาวบ้านในตำบลหลายราย แต่ไม่มีใครไปแจ้งความ เพราะเจ้าหน้าที่จับแล้วปล่อยออกมาเหมือนเดิม ส่วนที่นายสมชายอ้างว่าตนมีบัตรคนบ้าหรือบัตรผู้ป่วยทางจิตนั้น ตนไม่เชื่อ
ด้าน น.ส.ชญาภา เล่าว่า หลังเกิดเหตุทางครอบครัวไม่กล้าไปไหนมาไหนอยู่เฉพาะแถวบ้าน ส่วนในพื้นที่หมู่ 5 หมู่ 10 ไม่กล้าไป ขนาดเจ็บป่วยจะไปโรงพยาบาลรพ.สต.ก็ไม่กล้าไป เกรงอันตรายกลัวถูกดักจับตัว ที่บ้านมีเด็ก คนแก่ วอนให้ผู้ก่อเหตุเข้ามอบตัวอย่าสร้างความเดือดร้อนให้ใครอีกเพราะไม่เป็นผลดีกับตัวนายสมชายเอง

ทราบว่านายสมชายติดตั้งวงจรปิดบริเวณหมู่ 5 และหมู่ 10 ตำบลวิสัยใต้ อยากให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและถอดกล้องเหมือนกับเป็นตาสับปะรดให้กับตัวผู้ต้องหาด้วยซึ่งง่ายในการหลบหนีเจ้าหน้าที่”
ด้าน นายธีรยุท สมศรี กำนันตำบลวิสัยใต้ อ.สวี จ.ชุมพร กล่าวว่า หลังร่วมปฏิบัติการร่วมเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมตัวนายสมชาย ทราบว่าผู้ต้องหารายนี้พูดจาข่มขู่จะฆ่ากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และปลัดอำเภอสวีด้วย ทำให้ต้องออกมาเปิดเผยพฤติกรรมนายสมชาย
โดยเหตุการณ์แรกที่นายสมชายก่อเหตุคือ รถเจ้าหน้าที่ป่าไม้โดนใช้มีดฟันรถได้รับความเสียหายขณะที่มีเจ้าหน้าที่อยู่ในรถจำนวน 4 คน แต่ไม่ทราบสามเหตุว่ามาจากเรื่องใด
เหตุการณ์ที่ 2 ใช้มีดฟันรถรับซื้อกล้วยหอมในพื้นที่ เหตุการณ์ที่ 3 ใช้มีดดาบไล่ฟันเจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตำรวจทางหลวงบนถนนสายเอเซีย 41ในเขตตำบลวิสัยใต้ เพื่อให้เลิกด่านอ้างชาวบ้านเดือดร้อนหลังจากนั้นใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่ใส่รถแบคโฮ รถหกล้อในพื้นที่ และ ยิงปืนใส่รถน้ำแข็ง



นายธีรยุท กล่าวว่า ถ้านายสมชายไม่พอใจจุดไหนจะใช้อาวุธปืนยิงขู่ และใช้อาวุธปืนลูกซองจ่อลำตัวของราษฎรในพื้นที่หมู่ 2 ด้วย โดยการก่อเหตุก่อนหน้านี้ชาวบ้านที่โดนกระทำสามารถแจ้งความฐานพยายามฆ่าได้หมดแต่ชาวบ้านไม่เอาความ ส่วนหนึ่งก็เป็นญาติพี่น้องของนายสมชายเอง
จนล่าสุดเมื่อวันที่ 7 เม.ย.จึงถูกแจ้งความพยายามฆ่า จนถูกออกหมายจับและตรวจค้นอาวุธ ซึ่งนายสมชาย พูดกับชาวบ้านว่า “ถ้าเจอกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและปลัดอำเภอสวี จะยิงทันที” ทั้งนี้อยากให้มอบตัวสู้คดี โดยพฤติกรรมนายสมชายเป็นบุคคลอันตราย แต่ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากอาการป่วยโรคไบโพลาร์ และช่วงหลังน่าจะขาดยา
ส่วน นายสถาพร (สงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี หนึ่งในผู้ที่ถูกนายสมชายใช้ปืนข่มขู่ เล่าว่า นายสมชายวานให้ตนต่อสายโทรศัพท์หา”ปลัดก้อง” ปลัดอำเภอสวี แต่ตนไม่โทรต่อสายให้ ทำให้นายสมชายไม่พอใจ
ต่อมาเจอหน้ากันนายสมชายใช้ปืนลูกซองยาวจ่อที่หน้าท้องพร้อมกับพูดขู่ว่า ยิงมึงอีกคนยิงตายโหงให้หมด มีผู้ใหญ่เอ้ ป.ก้อง ก็จะยิงให้หมด” แต่ตนสังเกตเห็นว่านายสมชายนอกจากมีลูกซองยาวแล้วยังพกปืนขนาด.38 ไว้ที่เอวด้วย ขณะใช้ปืนข่มขู่มีผู้หญิงอยู่บริเวณนั้นหลายคนบางคนฉี่แตกด้วย”นับว่าเป็นบุคคลอันตราย



ด้าน นายสมทรัพย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ชาวบ้านหมู่ 10 ตำบลวิสัยใต้ พร้อม นางส่งเสริม (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี แม่ ผู้ประกอบการรับซื้อกล้วยหอมทอง เล่าว่า ครอบครัวตนเคยถูกนายสมชาย ใช้มีดดาบฟันที่กระโปรงรถโดยไม่ทราบสาเหตุ ขณะจอดรถแวะซื้อแตงโมข้างทาง และไล่ฟันคนงาน แต่ทุกคนหนีรอด จึงไปแจ้งความ
หลังจากนั้นเจอหน้ากันนายสมชาย พูดข่มขู่ว่ามึงพาตำรวจจับกู ถ้าไม่อยากตายทั้งครอบครัวให้ย้ายไปอยู่ที่อื่น ทั้งที่ไม่เคยมีปัญหาบาดหมางกันมาก่อน”
ขณะที่ น.ส.บุญมี (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี อาชีพค้าขาย ซึ่งเป็นญาติของนายสมชาย เล่าให้ฟังถึงพฤติกรรมของนายสมชายว่า เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมานายสมชายไม่พอใจ เกิดโมโหที่คนส่งน้ำแข็งไม่แวะส่งน้ำแข็งให้อ้างว่าน้ำแข็งหมด จากนั้นเจอคนส่งน้ำแข็งเลยพูดข่มขู่ว่า “เดี๋ยวมึงจะตายทั้งคนทั้งรถกูเผาให้หมด” หลังจากนั้นก็ยิงปืนขึ้นฟ้าประมาณ 3-4 นัด และเอาปืนทุบรถ
ขณะนั้นลูกค้าที่ร้านก็อยู่กันเยอะ จนปัจจุบันรถส่งน้ำแข็งไม่กล้าขึ้นมาส่งที่ร้านตนเพราะกลัว ทางร้านก็ได้รับผลกระทบไปด้วยโดยไม่มีน้ำแข็งขาย โดยนายสมชายมีศักดิ์เป็นอาเลี้ยง อยากให้อาเป็นคนดี มอบตัวไม่อยากให้ทำร้ายผู้อื่น

You Might Also Like

0 comments

Flickr Images