khaothai

@baton545 #ติดเทรนด์วันนี้ หากวันนั้นท่านทั้งสอง ไม่ได้ช่วยผมไว้ก็ไม่รู้ว่าป่านนี้ผมจะเป็นยังไง ย้อนไปเมื่อประมาณ 6 ปีที่แล้ว ก่อนที่ผมจะได้เข้ามาบวช โยม 2 ท่านนี่เป็นผู้ที่ทำให้ผมได้เข้ามาบวชอยู่ในร่มกาสาวพัสตร์ มันคือจุดเปลี่ยนที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต จากแต่ก่อนที่เป็นคนเกเรไม่เอาไหน และมีเหตุการณ์หนึ่งซึ่งโยม 2 ท่านนี้ได้ช่วยเหลือชีวิตผมไว้ ในตอนนั้น ถ้าไม่มีโยม 2 ท่านนี้ช่วยเหลือในวันนั้น ผมคงได้อยู่ในที่ที่ไม่ดีแน่ๆ วันนี้ผมเลยได้กลับมาหา เพื่อที่จะมาขอบคุณท่านทั้ง 2 เป็นครั้งแรก #ขอบคุณทั้งน้ำตา ♬ 羽肿 - Windy Hill - 羽肿

ทั้งหมดศพ 3 ศพ นางสมสี สาระคุณ อายุ 62 ปี แม่ นายกาญไชย์ สาระคุณ อายุ 42 ปี คนขับ และหลานสาว น.ส.กนกกร สาระคุณ อายุ 16 ปี บรรกาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีบรรดาญาติพี่น้องที่มาร่วมงาน เพราะทั้งหมดต่างไม่คาดคิดคาดฝันว่าจะเกิดเหตุการณ์น่าสลดเช่นนี้ขึ้น



สลดตั้งเรียง 5 ศพ เหตุปิกอัพคว่ำ ลูกสาวเผยห้ามแม่จนทะเลาะกัน ช็อกกลางทาง หลังรู้ข่าวไม่ได้สาหัส
นายสำราญ สาระคุณ อายุ 73 ปี พ่อของคนขับดังรถดังกล่าว รวมไปถึงสามีของนางสมสี และปู่ของ น.ส.กนกกร โดยนายสำราญ เปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุภรรยาให้ลูกชายพาไปรถน้ำดำหัวพ่อตาแม่ยาย ที่อยู่ จ.สกลนคร ซึ่งตอนนั้นตนต้องดูแลไร่นาและวัวที่เลี้ยงไว้ เลยไม่ได้ไปด้วย



ก็มีแต่ภรรยา ลูกชาย ลูกสะใภ้ หลานสาว และญาติอีก 2 คน เดินทางไปด้วยกัน ซึ่งก่อนจะไป ก็ไม่ได้มีลางสังหรณ์อะไร ก็พูดคุยกันตามปกติดี ก่อนที่จะพากันเดินทางกลับมาก็ยังโทรคุยกันว่ากำลังจะเดินทางกลับแล้ว ตนก็ไม่คิดไม่ฝันว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นที่ต้องมาเสียภรรยา ลูกชาย และหลานสาวในคราวเดียวกัน
ด้านนายปุ่น บุญตาม อายุ 71 ปี ญาติที่เดินทางไปรับ น.ส.ไพจิตร อายุ 42 ปี ภรรยาคนขับรถ ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว โดยนำมารักษาตัวต่อ รพ.อำนาจเจริญ เปิดเผยว่า จากการที่ตนได้พูดคุยกับ น.ส.ไพจิตร
เบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุนั้นคนขับบอกว่าง่วง จึงแวะปั๊มน้ำมัน และใช้ให้น.ส.ไพจิตรไปซื้อเครื่องดื่มชูกำลัง ผ้าเย็น เพื่อมาเช็ดหน้าเช็ด แต่น.ส.ไพจิตรบอกสามีอยู่ว่า ถ้าง่วงไม่ไหว ก็จอดนอนพักก่อนก็ได้ค่อยเดินทาง แต่สามีก็ยังฝืนขับรถออกมา ซึ่งตอนที่เกิดเหตุนั่นน.ส.ไพจิตรนอนหลับ เลยไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมา มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ฟื้นอยู่ที่รพ.นครพนม
ผู้สื่อข่าวพยายามที่จะติดต่อเพื่อขอพูดคุยกับ น.ส.ไพจิตรผู้รอดชีวิต แต่เนื่องจาก น.ส.ไพจิตรกำลังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.อำนาจเจริญ และทางรพ.ก็ไม่อนุญาตให้เข้าไปสัมภาษณ์หรือบันทึกภาพใดๆ

ล่าสุดความคืบหน้า พนักงานสอบสวน สภ.ป่าบอน จ.พัทลุง เรียกสอบผู้ก่อเหตุอีกครั้ง พร้อมกับทนาย ก่อนนำตัวไปฝากขังต่อศาลจังหวัดพัทลุง เช่นเดียวกันในวันนี้ โดยนายกฤตภัค ปฎิเสธการให้ข้อมูลความขัดแย้งและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทนายบอกจะทำให้เสียรูปคดี
ด้านภรรยาผู้เสียชีวิต เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า มูลเหตุของเรื่องมาจากก่อนหน้านี้ 2 วัน สามีผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน แล้วสุนัขชื่อนาราย ของพี่เขยที่เลี้ยงไว้เห่าและไล่กัด ทั้งที่ผู้ตายก็ให้ข้าวกินอยู่ด้วย เลยด่าว่าให้กินข้าวยังเลี้ยงไม่เชื่อ ซึ่งจังหวะนั้นพี่เขยยืนดูอยู่ ทำให้เกิดความไม่พอใจ แต่ตะโกนต่อว่ากลับ จนกระทั่งเมื่อตอนเย็นของวันก่อนเกิดเหตุ นายกฤตภัคได้ทะเลาะกับพี่สาวตนเอง ทำให้พี่สาวแอบหลบซ่อนตัวในห้อง ทำให้นายกฤตภัคโมโห แล้วพาลมายิงสามีตนเองเสียชีวิต
ซึ่งปกติแล้วพี่เขยกับสามีไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน แต่ตนกับพี่สาวทะเลาะกันมาเป็นปีแล้วและไม่พูดคุยกัน เพราะพี่สาวเป็นคนแรงและเพิ่งได้สามีใหม่ประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา แล้วกลับมาอยู่บ้านต่อ จากนั้นได้ทะเลาะกับตนเองจนบาดหวางใจกัน แต่ต่างคนต่างอยู่

กล้องวงจรปิดเพิ่มเติม แต่ยังไม่สามารถเข้าระบบเซิร์ฟเวอร์ได้



เฮียเล็ก คนดูแลอพาร์ตเมนต์ กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตพักอาศัยอยู่ที่ชั้น 4 ของอพาร์ตเมนต์แห่งนี้ กับครอบครัวคือภรรยา และลูก 2 คน อายุประมาณ 6-7 ขวบ โดยเพิ่งเข้ามาพักอาศัยได้ไม่ถึง 1 สัปดาห์ ซึ่งคนที่มาเช่าคือนายจ้าง มาเช่าห้องให้ผู้เสียชีวิตและครอบครัวอยู่อาศัย แต่ตั้งแต่มาอยู่ ตนก็ไม่ได้เข้าไปยุ่ง จึงไม่ได้รู้อะไรมาก